เรื่องราวของ Lucas (Mads Mikkelsen) ชายผู้ทำงานอยู่ในเนิร์สเซอรี่ในชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่วิถีชีวิตวนเวียนอยู่กับการดูแลเด็กในเนิร์สเซอรี่และสังสรรค์กับเพื่อนๆในชุมชน ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามหาหนทางที่จะได้อยู่ร่วมกับลูกชายที่ถูกพรากไปจากการหย่าร้างของเขาและภรรยา ชีวิตของเขาดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบเรียบจนกระทั่งมีเด็กคนหนึ่งที่เนิร์สเซอรี่กล่าวหาว่าเขาโชว์ “ของลับ” ของเขาให้เด็กดู ทำให้เขาเริ่มถูกกีดกันจากคนในชุมชน และยิ่งเขาพยายามจะแก้ไขเรื่องทั้งหมดให้ถูกต้องมากเท่าไหร่ สถานะของเขาก็ยิ่งเป็นที่รังเกียจจากคนในชุมชนมากขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างที่ดู ก็อดนึกเชื่อมโยงเรื่องราวในเรื่องกับเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวไม่ได้ (แต่สิ่งที่นึกถึงเป็นสิ่งแรกเลยคือนวนิยาย “คำพิพากษา” ของ ชาติ กอบจิตติ ที่มีประเด็นของเรื่องคล้ายกันมาก) โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “การล่าแม่มด” อยู่บ่อยครั้ง โดยลักษณะของการล่าแม่มดในหนังนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากความไร้เดียงสาของเด็กที่เพียงแค่ต้องการปัดรำคาญต่อคำถามของผู้ใหญ่ที่ตัวเองไม่อยากตอบ ซึ่งสิ่งที่เด็กพูดนั้นอาจเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องโกหกก็ได้ แต่คำตอบนั้นกลับไปสอดคล้องต่อสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการจะได้ยินอยู่แล้ว ทำให้คำพูดของเด็กนั้นกลายสภาพเป็น “อาวุธ” ชั้นดีในการสร้างความชอบธรรมในการล่าแม่มด บ่อยครั้งที่คนที่เป็นส่วนหนึ่งของการล่าแม่มดจะมีลักษณะของความบกพร่องในการใช้ตรรกะ หรือการไร้ข้อข้องใจต่อบุคคลที่คนๆนั้นยึดถือ เช่นในหนัง แม่ของเด็กจะคิดว่า “ลูกของตัวเองเป็นเด็กดี ไม่มีวันพูดโกหก” ทำให้ไม่เกิดการตรวจสอบหรือข้องใจต่อคำพูดของเด็กเลยแม้แต่นิดเดียว (ทั้งๆที่ตัวเด็กเองก็รู้สึกสับสนและพูดแย้งกันเองหลายครั้ง) ซึ่งนี่เป็นรูปแบบความคิดที่สามารถพบเห็นได้บ่อยในสังคม และมีแนวโน้มจะนำไปสู้ความรุนแรงได้ หากผู้เป็นส่วนหนึ่งของการล่าแม่มดนั้นไม่มีการฉุกคิดหรือเริ่มต้นที่จะทบทวนกระบวนความคิดของตนเองว่ามีความถูกต้องมากแค่ไหน หรือต่อให้มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป้าหมายของการล่าแม่มดนั้นทำผิดจริง มันก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วหรือ ที่จะดำเนินการใดๆก็ตามที่จะริดรอนสิทธิความเป็นมนุษย์ของคนๆนั้น Actors: Mads Mikkelsen , Thomas Bo Larsen ,SoundTrack : SubThai
หมวดหมู่หนัง
ปีที่หนังเข้าฉาย